VeHIFU สำหรับผู้ชาย
VeHIFU กระชับผิว
สำหรับคุณผู้ชายโดยเฉพาะ
สวัสดีค่ะ หมอบุ๋มค่ะ หมอเจอคำถามจากผู้ชายหลายๆท่านค่อนข้างเยอะ ว่ามีผู้ชายมาทำ VeHIFU กันไหม เพราะบางทีผู้ชายอาจจะเขินๆ ที่ต้องเข้ามาทำหน้าที่คลินิก แต่ขอบอกไว้เลยว่า ผู้ชายก็ทำได้ค่ะ และมีมาทำเยอะด้วย ไม่ต้องเขินนะคะ
ดังนั้นเคสผู้ชายที่จะมีรีวิวให้เห็นก็จะน้อยหน่อย เพราะไม่ค่อยมีใครอยากออกสื่อเท่าไรค่ะ แต่วันนี้หมอได้มีรีวิวจากคุณต้น เคส VDO ข้างบน ที่หมอต้องขอบคุณมาก ที่ได้แชร์ความประทับใจกับเรา ลองฟังกันดูนะคะ
VeHIFU (ไฮฟู) ยกกระชับ คืออะไร
HIFU (ไฮฟู) มาจาก "high intensity focused ultrasound" คือการใช้คลื่นเสียง (พลังงานอัลตราซาวด์) ความเข้มข้นสูง กระตุ้นผิวชั้นลึกเพื่อช่วย "ยกกระชับหน้า ให้ผิวตึงมากขึ้น ลดความหย่อนคล้อย" โดยเราเรียกผิวชั้นลึกส่วนนี้ว่าชั้น SMAS (สแมส) ซึ่งเป็นชั้นที่ปกติเราจะทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าให้ตึงขึ้น นั่นเอง
VeHIFU แตกต่างจาก HIFU ปกติธรรมดาหรือไม่
VeHIFU เป็นโปรแกรมเฉพาะ ที่หมอออกแบบมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า HIFU ปกติทั่วไป เพราะพลังงานที่เสถียร และลงได้ลึกแม่นยำกว่า
พร้อมกับเทคนิคการทำที่ต้องเน้น และต้องละเอียดจริงๆ ทำให้ได้ผลออกมาดีกว่า HIFU ทั่วไป หมอให้ความสำคัญกับการยิงที่ละเอียดมากๆค่ะ และการตั้งค่าพลังงานที่ตัวเครื่องก็สำคัญ ซึ่งต้องปรับตามสภาพผิวหน้าแต่ละคนแตกต่างกันไป
สำหรับผู้ชาย การตั้งค่า การเน้น แตกต่างจากในผู้หญิงแน่นอนค่ะ
เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหน้าทุกคนต้องหย่อนคล้อยลงเรื่อยๆ ใช่ไหมคะ เมื่อก่อนในคนอายุมาก ถ้าต้องการให้หน้ายกกระชับเต่งตึงขึ้น ก็ต้องไปผ่าตัดดึงหน้า
การผ่าตัดดึงหน้านี่เองที่หมอผ่าตัดเค้าจะผ่าไปที่ชั้นผิวส่วนลึก เรียกว่า ชั้น SMAS (สแมส) ซึ่งเป็นชั้นที่เชื่อมชั้นผิวกล้ามเนื้อบนลงไปยังพังผืดส่วนล่างเวลาผ่าดึงชั้นนี้ขึ้น จะทำให้ใบหน้าตึงกระชับขึ้น
แต่ ข้อเสีย อย่างหนึ่งของการผ่าตัดคืออาการหลังผ่า ที่ "บวมช้ำ ต้องพักฟื้นนาน" และถึงผิวเต่งตึงขึ้นแต่ "สภาพผิวส่วนบน" ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขได้
ปัจจุบันเราจึงเห็นเทคโนโลยีการแพทย์ใหม่ๆที่ถูกพัฒนาให้ทำได้ง่ายมากขึ้น พักฟื้นน้อยลง อาจเรียกว่าไม่ต้องพักฟื้นเลยด้วยซ้ำแถมยังไห้ผลการยกกระชับที่ดี อีกด้วย
หลังทำ ผิวหน้าจะไม่มีแผล ไม่บวม ไม่แดง สามารถกลับไปทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติ นี่แหละข้อดีสุดๆๆเลย
และ HIFU (ไฮฟู) ก็เป็นหนึ่งในนั้น ...
แล้ว VeHIFU สำหรับผู้ชาย แตกต่างจาก ผู้หญิงหรือไม่ ?
ต้องเกริ่นก่อนว่า โครงสร้างใบหน้าผู้ชายกับผู้หญิง ต่างกัน ความละเอียดของผิว ความหนาชั้นผิวและกล้ามเนื้อก็ต่างกันไปค่ะ ดังนั้น โดยหลักแล้ว เวลาทำ VeHIFU ในผู้ชาย ก็ต้องมีการปรับค่าพลังงาน จัดตำแหน่งหัว HIFU ให้เหมาะสมกับแต่ละเคสไปค่ะ
ดังนั้นคำตอบคือ ช ญ ก็ทำต่างกันนั่นแหละ
แล้วผลที่ออกมาต่างกันไหม ?
ผลที่ออกมา คือ ทำให้ผิวกระชับขึ้น หน้าเข้ารูปมากขึ้นเช่นกันค่ะ โดยการเห็นผลทันทีจะอยู่ที่ประมาณ 20% และผลจะชัดเจนมากขึ้นที่ประมาณ 1 เดือนค่ะ
แนะนำคุณผู้ชาย ทำ VeHIFU ช่วยเรื่องอะไร ?
1. ลดเหนียง ลดแก้ม - ปัญหานี้เป็นปัญหาหลัก โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่เนื้อเยอะ และกลัวเข็ม ไม่อยากฉีด วิธีนี้เหมาะมากค่ะสำหรับคนที่ต้องการลดแก้ม ลดเหนียงให้หน้าเล็กลง เข้ารูปมากขึ้น
2. กระชับแก้ม เน้นกรอบหน้าชัด - เน้นๆเลย เพื่อให้หน้าเข้ารูปมากขึ้น VeHIFU ทำแล้วเห็นผลดีค่ะ
3. ลดพุง ลดเนื้อที่ลำตัว - นอกจากที่หน้าแล้ว VeHIFU ยังช่วยจัดการปัญหาเนื้อเยอะ พุงเยอะที่ลำตัว ต้นแขน ต้นขาได้ด้วยนะคะ
หลังทำจะมีอาการอย่างไรบ้าง จะมีแผลหรือไม่ ?
นี่คือข้อดีของการทำ VeHIFU คือ หลังทำไม่มีแผล และผิวไม่มีอาการผิดปกติค่ะ
เพราะเราไม่ได้ฉีดหรือใส่อะไรเข้าไปที่ผิวเลย นอกจากใช้พลังงานกระตุ้นผิวอย่างเดียว ฉะนั้นหลังทำ อย่างมากเลยก็บวมตังนิดหน่อยเท่านั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นแน่นอนค่ะ เพราะหลายๆคนจะกังวลว่าหลังทำผิวหน้าจะเป็นอะไรไหม กลัวคนอื่นรอบข้างจะสังเกตเห็น หมอบอกได้เลยว่า ผิวไม่มีแผล ไม่มีอาการผิดปกติใดๆแน่ๆ
นี่คือข้อดีของการทำ VeHIFU คือหลังทำก็ไม่ต้องพัก ใช้หน้าได้ทันทีค่ะ
ข้อเสียมีอะไรบ้าง ?
แน่นอนว่ามีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสียบ้างแหละเนอะ เป็นของคู่กัน ข้อเสียนั้นเล็กน้อยค่ะ คือ ผลของ VeHIFU จะค่อยเป็นค่อยไป อาจจะไม่ทันใจวัยรุ่นนัก แต่เหมาะกับคนที่ไม่อยากดูเปลี่ยนมาก ให้ค่อยๆเป็นไปตามธรรมชาติที่สุด
นอกจากนี้ หลังทำอาจจะมีอาการปวดได้บ้างค่ะ บวมตึงผิวได้บ้างเล็กน้อยค่ะ เพราะการกระตุ้นผิวต้องใช้พลังงานสูงพอสมควร ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย ก็จะไม่เห็นผลไปอีกค่ะ
ใครที่ต้องการกระชับผิวหน้า หรือต้องการลดเหนียง อยากให้กรอบหน้าชัดมากขึ้น กระชับมากขึ้น โปรแกรม VeHIFU จัดการได้นะคะ
อ่านเพิ่มเติม VeHIFU คืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง